วันพฤหัสบดีที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ความแตกต่างระหว่างบุคคล

การบ้าน
ดังที่ได้กล่าวปัจจัยที่ส่งผลให้บุคคลมีความแตกต่างกันนั้นมีหลายปัจจัยและสาเหตุ ดังนั้นขอให้นักศึกษาวิเคราะห์ถึงสาเหตุที่ส่งผลให้นักศึกษาแตกต่างไปจากบุคคลอื่น ๆ กำหนดส่งภายในวันที่ 1 - 6 ธันวาคม 2551 ถ้าหากนักศึกษาไม่ส่งในระยะเวลากำหนดถือว่าสละสิทธิคะแนนในงานชิ้นนี้

วันอังคารที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

วัฒนธรรมองค์การ

เป็นที่ทราบกันดีว่าวัฒนธรรมของแต่ละองค์กรจะประกอบไปด้วย 3 ชั้น ซึ่งชั้นแรกเป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นซึ่งสามารถสังเกตเห็นได้แต่บ่อยครั้งที่ไม่สามารถจะอธิบายได้ ชั้นที่สองเป็นเรื่องของค่านิยมหรือสิ่งที่มีความสำคัญอย่างมากของคนในองค์กร และชั้นที่สามเป็นสมมติฐานเบื้องต้น (basic assumtion) ของคนในองค์กรที่ตกลงปฏิบัติร่วมกัน


การบ้าน
ดังนั้นให้นักศึกษาเขียนรายงานเกี่ยวกับวัฒนธรรมองค์กรใดองค์กรหนึ่งที่นักศึกษารู้จักโดยอธิบายลักษณะวัฒนธรรมในแต่ละชั้นขององค์กรนั้นให้ละเอียด พร้อมบอกถึงข้อดีและข้อเสียของสิ่งเหล่านั้นด้วย

ส่งสัปดาห์หน้า 25- 29 พ.ย. 2551 เท่านั้น

แนวคิด POSDCoRB ของ Luther Gulick

P – Planning หมายถึง การวางแผน

O – Organizing หมายถึง การจัดองค์การ

S – Staffing หมายถึง การจัดคนเข้าทำงาน

D – Directing หมายถึง การสั่งการCo – Coordinating หมายถึง ความร่วมมือ

R – Reporting หมายถึง การรายงาน

B – Budgeting หมายถึง งบประมาณ

แนวคิดนี้มีลักษณะคล้ายคลึงหรือใกล้เคียงกับแนวคิดของ Fayol (POCCC) เนื่องจาก Gulick ได้นำแนวคิดของ Fayol มาขยายต่อยอดเท่านั้นเอง ซึ่งหากพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้วก็มีเนื้อหาที่ใกล้เคียงกัน แต่ POSDCoRB จะมีขั้นตอนที่ละเอียดมากกว่า ทำให้เข้าใจภาพที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

หลักการบริหาร Henri Fayol

ประการที่ 1 หลักอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบ(Authority and Responsibility)
ประการที่ 2 หลักของการมีผู้บังคับบัญชาเพียงคนเดียว(Unity of Command)
ประการที่ 3 หลักของการไปในทิศทางเดียวกัน (Unity of Direct ion )
ประการที่ 4 หลักสายการบังคับบัญชา (Scalar Chain)
ประการที่ 5 หลักของการแบ่งงานกันทำ (Division of Work or Specialization)
ประการที่ 6 หลักความมีระเบียบวินัย(Discipline)
ประการที่ 7 หลักประโยชน์ของส่วนบุคคลเป็นรองจากประโยชน์ของส่วนรวม (Subordination of the Individual Interest to General Interest )
ประการที่ 8 หลักของการให้ผลตอบแทน(Remuneration)
ประการที่ 9 หลักของการรวมอำนาจ ( Centralization)
ประการที่ 10 หลักความเป็นระเบียบเรียบร้อย (Order)
ประการที่ 11 หลักความเสมอภาค (Equity)
ประการที่ 12 หลักความมั่นคงในการทำงาน (Stability of Tenure)
ประการที่ 13 หลักความริเริ่ม(Imitative)
ประการที่ 14 หลักความสามัคคี (Esprit de Corps)

นักศึกษาสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้จากตำรา หนังสือ เกี่ยวกับ ทฤษฎีองค์กร องค์การและการจัดการเป็นต้น ซึ่งจะมีเนื้อหาที่ใกล้เคียงหรือเหมือนมาก

วันอังคารที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

Environmental Forces Reshaping Mangement

Power of human resources
The a bility to get things done in the way on wants them to be done.

Globalism
The interdependency of transportation, distribution, communication, and economic networks across international borders.

Cultural diversity
The vast array of differences created by cultural phenomena such as history, economic conditions, personality characteristics, language, norms, an mores.

Rapidity of change
The speed at which change occures, Rapid change is found in many areas such as techonlogy, demographics, globalism, and new products and services.

Psychological contract
An unwritten agreement between an employdd and the organization which specifies what each expects to give to and receive from the other.

Technology
An important concept that can have many definitions in specific instances but that generally frefers to actions, physical an mental, that an individual performs upon some object, person, or problem in order to change it in some way

วันจันทร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

Do you know about allocation of Activities by time of managers

Avergage managers
19% they use the time for networking
20% they use the time for humna resource management
29% they use the time for communication
32% they use the time for traditional management

Successful managers
48% they use the time for networking
11% they use the time for humna resource management
28% they use the time for communication
13% they use the time for traditional management

Effective managers
11% they use the time for networking
26% they use the time for humna resource management
44% they use the time for communication
19% they use the time for traditional management

So What kind of mangers do you want to be?

source: Based on F. Luthans, R. M., Hodgeets, and S.A. Rosenkrantz, Real Mangers (Cambridge, MA: Ballinger, 1988)

What does Manager do?

Manager is a person who achieve goals through other people.

The classic functions of Henri Fayol management divided into 4 functions that the managers should do
1. Planing function is that managers have to define goals, establishing trategy, and developing plan to coordinate activities, etc

2. Organizing function is that managers have to determine what tasks are to be done, who is to do them, how the tasks are to be grouped, who reports to whom, and where decisions are to be made.

3. Leading function is that managers have to motivate subordinates, direting others, selecting he most effective communication achnnels, and resolving conflicts.

4. Controlling function is that managers have to monitor activities to ensure they are being accomplished as planned and correcting any significant deviations.

Current Trends and Issues of organizations

1. Globalization มีความเป็นโลหาภิวัฒน์ ไร้พรมแดน มีการเคลื่อนย้ายเงินทุนไปยังประเทศต่าง ๆ มากข้น ดังนั้นการจัดการจำเป็นต้องดำเนินการในรูปแบบของบริษัทข้ามชาติ หรือองค์การระหว่างประเทศ การเมืองวัฒนธรรมที่มีความแตกต่างเป็นอีกปัจจัยที่ท้าทายสำหรับการบริหารจัดการในยุคปัจจุบัน

2. Ehics สังคมและประเทศต่าง ๆ ต่างตะหนักถึงประเด็นของจริยธรรมกันมากขึ้น หากสังเกตจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าในปัจจุบันแม้แต่สถาบันการศึกษาได้ปัจจุบันเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับจริยธรรมลงไปในหลักสูตรเพื่อให้นักศึกษาตระหนักถึงความรับผิดชอบที่มีต่อสังคม เพราะหากองค์การไม่คำนึงถึงจริยธรรมก็ยากที่จะดำเนินการภายใต้สภาพแวดล้อมที่คำนึงคุณจริยธรรมได้

3. Workforce Deversity ความหลากหลายทางด้านแรงงาน ทั้งเพศ เชื้อชาติ ศาสนา วัฒนธรรม คนพิการ และผู้ด้อยความสามารถด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะในประเทศไทย หลังจากปี 2500 ซึ่งอาจเรียกว่าเป็นยุคของ Baby Boom ที่กล่าวได้ว่ามีประชากรเกิดในช่วงนั้นค่อนข้างมาก ซึ่งในปัจจุบันประชากรเหล่านั้นก็ค่อนข้างมีอายุมากขึ้น ทำให้ผู้เกี่ยวข้องต้องตระหนักถึงบุคคลเหล่านั้นด้วย ในขณะเดียวสถาการณ์โลกก็คงไม่แตกต่างกันมากเพราะหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ความต้องการทางด้านแรงงานที่เพิ่มมากขึ้นทำให้ประชากรโลกเพิ่มขึ้นในช่วงในอย่างรวดเร็วเช่นเดียวและในปัจจุบันก็กลายเป็นผู้สูงอายุในตลาดแรงงานเช่นเดียวกัน ตลอดจนการเปิดเขตการค้าเสรีในบางประเทศทำให้แรงงานสามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างสะดวก ดังกนั้นความหลากหลายทางด้านแรงงานจึงเป็นปัจจัยหนึ่งที่ควรให้ความสนใจอย่างมาก

4. E-Business การดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก โดยการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยทำให้เกิดความสะดวกในการซื้อขาย ไม่ต้องใช่สถานที่ในการเก็บสินค้า สามารถดำเนินการตลอดเวลา ทุกที เป็นต้น ทำให้เป็นแรงผลักดันต่อการดำเนินธุรกิจอีกรูปแบบหนึ่ง

5. Knowledge Management and Learning Organization การดำเนินการสมัยต้องการคนงานที่มีความรู้ (knowlege worker) เพื่อให้การดำเนินการขององค์การมีประสิทธิภาพสูงสุด และสามารถปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เปลี่ยนแปลงไปอยู่ตลอดเวลา และความปราถนาที่จะกลายเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ทำให้เป็นปัจจัยที่เข้าให้ความสำคัญอย่างมากอีกปัจจัยหนึ่ง

6. Quality Management การจัดการเชิงคุณภาพ นับว่าเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญเช่นเดียวกับปัจจัยอื่น ๆ ที่กล่าวมาข้างต้น เนื่องจากคุณภาพอาจเป็นตัวกำหนดความอยู่รอดขององค์การในการดำเนินธุรกิจในปัจจุบันก็ว่าได้ เนื่องจากแนวโน้มของผู้บริโภคต้องการสินค้าและบริการที่มีคุณภาพสูง ดังนั้นหากองค์การไม่คำนึงถึงประเด็นดังกล่าวอาจไม่สามารถดำเนินการภายใต้การแข่งขันในปัจจุบันได้

วันอังคารที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

Welcom to My Management and Organizational Behavior Class

Course Description
แนวคิดและทฤษฎีทางด้านการจัดการในปัจจุบัน บทบาทหน้าที่ของผู้บริหารในด้านการจัดการกระบวนการจัดการ การออกแบบและพัฒนาองค์การ หลักพื้นฐานและการวิเคราะห์พฤติกรรมบุคคลและพฤติกรรมองค์การ ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและกลุ่ม ผู้นำและภาวะความเป็นผู้นำ อำนาจหน้าที่ การจูงใจ ขวัญและกำลังใจ การสื่อสารในองค์การ ความขัดแย้งและการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นภายในองค์การ ประเด็นการศึกษาวิเคราะห์การจัดการและพฤติกรรมองค์การภายใต้การบริหารจัดการในยุคโลกาภิวัฒน์

Objectives
1.เพื่อให้นักศึกษาเข้าใจแนวความคิดของการจัดการและพฤติกรรมองค์การ และการนำไปประยุกต์ใช้
2. เพื่อให้นักศึกษาเรียนรู้จากกรณีศึกษาของบริษัทที่บรรลุความสำเร็จกับการประยุกต์ใช้แนวความคิดของการจัดการและพฤติกรรมองค์การเพื่อให้นักศึกษาได้มีโอกาสแสดงความคิดเห็นและการอภิปรายแนวความคิดและการประยุกต์ใช้

Learning Methods: Lecture, Discusstion, Action Learning, and Paper Essay will be used in this all course.


the students will study on this following;
1. Introduction to Roganizational Behavior
2. Organizational Culture
3. Individual Differences and Work Behavior
4. Perceptions, Attributions, and Emotions
5. Motivaion
6. Job Designn, Work, and Motivation
7. Evaluation, Feedback, and Rewards
8. managing Misbehavior
9. Managing Individual Stress
10. Groups and Teams
11. Managing Conflicts and Negotiations
12. Power, Ploitics, and Empowerment
13. Communication
14. Decision Making
15. Leadership
16. Managing Organizational Change

Books Assignment to read
Ivancevich, J. M., Konopaske, R., & Matteson, M. T. (2008). Organzational Behavior. Singapore: Mc Graw-Hill.

Robbins, S. P. (1998). Organzational Behavior. New Jersey: Prentice-Hall.

พรชัย ลิขิตธรรมโจรน์. (2545). พฤติกรรมองค์การ. กรุงเทพมหานคร: โอ. เอส. พริ้นติ้ง เฮ้าส์.

มัลลิกา ต้นสอน. (2544). พฤติกรรมองค์การ. กรุงเทพมหานคร: ด่านสุทธาการพิมพ์.

Robbins, S. P., Mary. C. (2008) การจัดการและพฤติกรรมองค์การ. แปลโดย วิรัช สงสวนวงศ์วาน. กรุงเทพมหานคร: วีพริ้นท์.

Stuart Crainer. (2551) รวมสุดยอดแนวคิดการจัดการสมัยใหม่. แปลโดย ชัจจ์ชนันต์ ธรรมจินดา. กรุงเทพมหานคร: วีพริ้นท์.

Jounal Assightment; I will recomment later

Evaluation:
1. Fommative 60 %
Paticipation 10
Class Attendance 10
Essay 10
Report 10
Test 20
2. Summative 40%

Grading: Using University criterias